<h1 style="text-align: left;">หลังวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 ความคิดการลงทุนแบบ "สวนกระแสหลัก" (contrarian investing) </h1>
หรือที่เราเรียกกันว่า &ldquo;ชาวสวน&rdquo;&nbsp; ได้กลายเป็นที่นิยม นักลงทุนจำนวนมากได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือและภาพยนตร์ The Big Short รวมถึงบุคคลอย่างสตีฟ ไอส์แมน, ไมเคิล เบอร์รี และเมเรดิธ วิทนีย์ ที่สร้างชื่อจากการลงทุนแทงสวนตลาดอสังหาริมทรัพย์ จนการเป็นชาวสวนกลายเป็นทั้งแฟชั่นและหนทางพิสูจน์ฝีมือในโลกการเงิน
&nbsp;
<h2>การผงาดขึ้นของแนวคิด Contrarian</h2>
ในช่วงต้นทศวรรษ 2010 การประกาศตนว่าเป็น contrarian กลายเป็นเรื่องแพร่หลาย เว็บไซต์อย่าง Zero Hedge สร้างฐานผู้ติดตามจำนวนมากจากการนำเสนอข่าวเชิงลบต่อเนื่อง ทั้งที่ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
สถาบันการลงทุนเองก็ถูกดึงดูดเข้าสู่แนวคิดนี้ โดยมีหลายกองทุนถูกตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อค้นหา &ldquo;The Next Big Short&rdquo; โดยมุ่งไปที่การชอร์ตสินทรัพย์ที่คิดว่าจะพังหรือการเก็งกำไรซับซ้อนอื่น ๆ ทว่าการเดิมพันเชิงพลิกโลกเช่นนั้นกลับแทบไม่เกิดขึ้น ผลลัพธ์คือกองทุนเหล่านี้ปิดตัวลงในเวลาไม่นาน เพราะตลาดการเงินไม่ได้ล่มสลายทุกปี
&nbsp;
<h2>การเสื่อมความนิยมของ Contrarian</h2>
เมื่อเวลาผ่านไป ความนิยมในแนวทางนี้เริ่มลดลง ตลาดกระทิงยาวนานทำให้เสียงเตือนเรื่อง &ldquo;วิกฤตใกล้เข้ามา&rdquo; ค่อย ๆ ถูกกลบไป และพอเข้าสู่ทศวรรษ 2020 กลยุทธ์การคิดเชิงซับซ้อน ก็พ่ายแพ้ให้กับการลงทุนตามแนวโน้ม (trend following) ที่ตรงไปตรงมา
ในขณะที่ช่วงต้นทศวรรษ 2010 นักลงทุนจำนวนมากยังกลัวว่าตลาดจะร่วงแบบวิกฤตอีกครั้ง นักลงทุนส่วนใหญ่ในปัจจุบันกลับเชื่อเกือบเป็นเอกฉันท์ว่าตลาด &ldquo;มีแต่จะขึ้น&rdquo; ส่งผลให้การลงทุนแบบ &ldquo;ชอร์ตครั้งใหญ่&rdquo; (Big Short) กลายเป็น &ldquo;ลองครั้งใหญ่&rdquo; (Big Long) แทน แนวคิดลักษณะนี้ยังทำให้ &ldquo;การซื้อเมื่อราคาตก&rdquo; (buy the dip) ได้กลายมาเป็นกลยุทธ์หลักของหลายต่อหลายคน
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยทำกำไรอย่างมหาศาลจากการเดินไปกับกระแสหลัก ไม่ใช่จากการสวนกระแส หุ้นเทคโนโลยีอย่าง Nvidia, Tesla, Facebook, Bitcoin หรือกองทุนดัชนีต่าง ๆ เช่น NASDAQ ETF กลายเป็นสัญลักษณ์ว่า &ldquo;ทุกอย่างที่ตก เดี๋ยวก็กลับขึ้น&rdquo;
ในทางกลับกัน กลุ่มนักวิเคราะห์ที่ยึดมั่นกับการมองแง่ร้าย ถูกลดบทบาทลงอย่างมาก หลังจากทำนายผิดมานานกว่าทศวรรษ ความน่าเชื่อถือของพวกเขาลดลงจนแทบไม่มีใครฟังอีกต่อไป
&nbsp;
<h2>เสียงเตือนจาก Contrarian ยุคใหม่</h2>
แม้แนวคิด contrarian จะซาลง แต่ก็ยังมีนักลงทุนชื่อดังที่แสดงความกังวลต่อสภาวะตลาดในปัจจุบันอยู่บ้าง โดยคนดังสองคนที่ออกมาให้ความคิดเห็นในช่วงเร็วๆ นี้มีสองคนคือ
<ul type="disc">
<li>โฮเวิร์ด มาร์กส์ แสดงความเห็นว่าตลาดอยู่ในระดับมูลค่าที่ &ldquo;น่ากังวล&rdquo; โดยเฉพาะในกระแสการลงทุนและเก็งกำไรด้าน AI เขาแนะนำให้นักลงทุนลดสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ที่ดูแพงเกินไป แล้วโยกไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า เพื่อจัดการความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นต้องหนีออกจากตลาดทั้งหมด</li>
<li>เบอร์ตัน มัลคีล เขียนบทความใน The New York Times ว่านักลงทุนอาจกำลังมองโลกในแง่ดีเกินไป และเน้นความสำคัญของการปรับสมดุลพอร์ต (rebalancing) ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ใกล้เกษียณควรเน้นลงทุนในในพันธบัตรระยะสั้นเพื่อความมั่นคง ส่วนผู้ที่ถือพอร์ตแบบ 60/40 (หุ้น 60% พันธบัตร 40%) ก็ควรตรวจสอบว่าการขึ้นของราคาหุ้นทำให้สัดส่วนเปลี่ยนไปหรือไม่ หากเกินสมดุลก็ควรขายหุ้นบางส่วนเพื่อกลับสู่ระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม</li>
</ul>
ทั้งสองย้ำตรงกันว่า การจับจังหวะตลาด (market timing) มักเป็นกลยุทธ์ที่ล้มเหลว การจัดพอร์ตที่เหมาะสมและการปรับสมดุลสม่ำเสมอคือวิธีที่มั่นคงกว่า
&nbsp;
<h2>ความไม่แน่นอนของวัฏจักรตลาด</h2>
สิ่งที่ทำให้การเป็น contrarian ยากที่สุดคือ ไม่มีใครรู้ว่าตลาดจะพังลงมาเมื่อไร ในกรณีของ สตีฟ ไอส์แมน และ ไมเคิล เบอร์รี ถ้าหากใครดูเรื่อง The Big Short ก็จะเห็นว่ากว่าที่การพนันของพวกเขาว่าตลาดจะพังลงจะถูกพิสูจน์ว่าถูกต้องก็มีช่วงเวลาขาดทุนยาวนานหลายเดือน แม้พฤติกรรมการเก็งกำไร เช่น การทุ่มลงทุนใน AI จะชวนให้นึกถึงฟองสบู่ แต่ตลาดก็อาจคงอยู่ในสภาพที่ &ldquo;ไร้เหตุผล&rdquo; ได้ยาวนานกว่าที่คาดคิด
<h3>&nbsp;</h3>
<h3 style="text-align: center;">ในอนาคตการลงทุนแบบ contrarian จะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน </h3>
<h3 style="text-align: center;">โดยเฉพาะเมื่อความมั่นใจในตลาดลดลงหรือเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ </h3>
<h3 style="text-align: center;">แต่ประวัติศาสตร์ย้ำว่าชาวสวนมีโอกาสผิดบ่อยกว่าถูก และ</h3>
<h3 style="text-align: center;"> &ldquo;Trend คือเพื่อนของคุณ&hellip;จนกว่ามันจะจบลง&rdquo; </h3>

หลังวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 ความคิดการลงทุนแบบ "สวนกระแสหลัก" (contrarian investing) หรือที่เราเรียกกันว่า “ชาวสวน” ได้กลายเป็นที่นิยม นักลงทุนจำนวนมากได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือและภาพยนตร์ The Big Short รวมถึงบุคคลอย่างสตีฟ ไอส์แมน, ไมเคิล เบอร์รี และเมเรดิธ วิทนีย์ ที่สร้างชื่อจากการลงทุนแทงสวนตลาดอสังหาริมทรัพย์ จนการเป็นชาวสวนกลายเป็นทั้งแฟชั่นและหนทางพิสูจน์ฝีมือในโลกการเงิน

The Big Long และชาวสวนที่หายไป

<h1 style="text-align: center;">ตลอดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โลกได้เห็นกระแสการลงทุนครั้งใหญ่ในเทคโนโลยี AI</h1>
โดย OpenAI ประกาศแผนการลงทุนสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ Oracle ต่อมาไม่นาน Nvidia ก็ตอบรับด้วยการลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAI ขณะเดียวกัน Oracle เองก็กำลังทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ของ Nvidia
นอกจากการลงทุนกันเองในกลุ่มบริษัท AI แนวหน้าแล้ว เรายังได้เห็นบริษัทเทคขนาดใหญ่ออกมาเผยแผนการลงทุนในเทคโนโลยีให้กับทรัมป์ที่ทำเนียบขาว ทั้งมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก, บิล เกตส์, ทิม คุก และแซม อัลท์แมน โดยแต่ละบริษัทมีแผนลงทุนในระดับแสนล้านดอลลาร์ทั้งนั้น 
ซักเคอร์เบิร์กในความเห็นไว้อย่างหน้าสนใจในการให้สัมภาษณ์หลังจากนั้นว่า &ldquo;ถ้าเราสุดท้ายใช้เงินผิดทางไปหลายแสนล้านดอลลาร์ ผมคิดว่านั่นคงเป็นเรื่องที่โชคร้ายมากแน่นอน แต่สิ่งที่ผมอยากบอกคือจริง ๆ แล้วผมมองว่าความเสี่ยงที่ใหญ่กว่านั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามต่างหาก ถ้าคุณลงทุนพัฒนาอย่างช้าเกินไป แล้วในอีก 3 ปีข้างหน้าปรากฏว่า AI ถูกพัฒนาไปจนถึงระดับ super intelligent จริง แต่คุณกลับวางแผนลงทุนโดยคิดว่าจะใช้เวลา 5 ปี แบบนั้นคุณก็จะตกขบวนในสิ่งที่ผมเชื่อว่าจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด ที่จะเปิดทางให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นวัตกรรมใหม่ ๆ และการสร้างคุณค่าในประวัติศาสตร์ทั้งหมด&rdquo;
พูดอีกอย่างก็คือ เขาจะไม่ยอมหย่อนมือกับเรื่องนี้ โดยถ้ามันจะกลายเป็นกระแสคลั่งไคล้ ก็ให้มันเป็นไปเถอะ ผู้นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ประวัติศาสตร์ของการลงทุนเกินพอดีเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่พวกเขาพูดคือ ความเสี่ยงที่แท้จริงมาจากการใช้เงิน &ldquo;ไม่พอ&rdquo; ต่างหาก
กระแสการลงทุนอย่างมือเติบนี้ทำให้นักวิเคราะห์รวมถึงกูรูการลงทุนหลายคนเริ่มมีความกังวลใจ โดยประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์อันเจ็บปวดเมื่อความตื่นตัวในเทคโนโลยีมาเจอกับเงินทุนจำนวนมหาศาล ในอดีตมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้เห็นเช่น 
ฟองสบู่ดอทคอม (ทศวรรษ 1990): บริษัทโทรคมนาคมลงทุนปูสายไฟเบอร์ออปติกมากกว่า 80 ล้านไมล์ แต่ห้าปีหลังฟองสบู่แตก สายกว่า 85% ยังคงไม่ได้ใช้งานเพราะมันมากเกินความจำเป็นไปมาก 
หรือหากย้อนกลับไปหน่อยก็จะมีเหตุการณ์ฟองสบู่ทางรถไฟ (ศตวรรษที่ 19): ปี 1845 มีบริษัททางรถไฟใหม่กว่า 500 แห่ง และมีแผนสร้างรางกว่า 8,000 ไมล์ในสหราชอาณาจักร ซึ่งยาวเกือบ 20 เท่าของประเทศอังกฤษ ต้นทุนการก่อสร้างสูงกว่ารายได้ประชาชาติทั้งประเทศด้วยซ้ำ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกอย่างชาร์ลส์ ดาร์วินก็ยังขาดทุนกว่า 60% จากการลงทุนในครั้งนั้น
แม้ในท้ายที่สุดแล้ว ฟองสบู่เหล่านี้ได้ทิ้งมรดกทางนวัตกรรมเอาไว้ โดยเครือข่ายทางรถไฟได้เปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจของอังกฤษ และโครงข่ายโทรคมนาคมก็ปูทางไปสู่ YouTube, วิดีโอคอล, สตรีมมิ่ง และโซเชียลมีเดีย แต่กระแสการลงทุนอย่างบ้าคลั่งบนเทคโนโลยีในช่วงแรกเริ่มมักนำมาสู่ฟองสบู่ที่จะแตกตัวในที่สุด
แม้จะมีความคล้ายคลึงกับอดีต แต่กระแส AI ครั้งนี้มีความแตกต่างจากฟองสบู่ในอดีตอยู่บ้าง โดยข้อแรกคือการลงทุนครั้งนี้ที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทใหญ่ ต่างจากฟองสบู่รถไฟและดอทคอมที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทขนาดย่อมจำนวนมาก ปัจจุบันเงินลงทุนมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเอง ข้อที่สองคือบริษัทเหล่านี้มีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งอย่างที่เราแทบไม่เคยเห็นมาก่อนในอดีต บริษัทชั้นนำอย่าง Nvidia, Microsoft และ Alphabet ไม่ใช่สตาร์ทอัพเล็ก ๆ แต่เป็นองค์กรที่มีกำไรสูงและเงินสดมหาศาล
นอกจากนั้น ถ้าเรากำลังอยู่ในฟองสบู่จริง สถานการณ์ตลาดการเงินตอนนี้ก็น่าจะถือว่าเป็นฟองสบู่ที่แปลกที่สุดครั้งหนึ่ง โดย The Wall Street Journal รายงานว่าปัจจุบันมีเงินกว่า 7.7 ล้านล้านดอลลาร์อยู่ในกองทุนตลาดเงิน นักลงทุนจำนวนมากเลือกเก็บเงินสดแทนที่จะเก็งกำไรแบบไร้เหตุผล ส่วน ราคาทองคำเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในปีนี้ และนับตั้งแต่การเปิดตัว ChatGPT ในปลายปี 2022 ทองคำยังทำผลงานดีกว่าดัชนี Nasdaq 100 เสียด้วยซ้ำ ทำไมหุ้นเทคโนโลยีถึงทำผลตอบแทนแพ้การลงทุนที่โบราณที่สุดในโลก? นอกจากนั้น ข้อมูลจาก JP Morgan ชี้ว่า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI สร้างผลตอบแทนคิดเป็น 75% ของผลตอบแทนดัชนี S&amp;P 500, 80% ของการเติบโตของกำไร และ 90% ของการลงทุนตั้งแต่ปลายปี 2022 เป็นต้นมา หุ้นกลุ่มอื่นแทบไม่ได้รับอานิสงค์จากตลาดกระทิงในรอบนี้เลย
<h3 style="text-align: center;">ดังนั้น แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนหนึ่งในฟองสบู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาสวนตลาดได้อย่างมั่นใจ </h3>

ตลอดไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โลกได้เห็นกระแสการลงทุนครั้งใหญ่ในเทคโนโลยี AI โดย OpenAI ประกาศแผนการลงทุนสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ Oracle

ฟองสบู่ AI: นวัตกรรม การลงทุน และความเสี่ยงจากความเกินพอดี

<h1 class="cvGsUA direction-ltr align-start para-style-body" style="text-align: left;">ABOUT KKP EDGE</h1>
<div dir="auto">เพราะการลงทุนที่มี "แผนและเป้าหมาย"</div>
<div dir="auto">ไม่ใช่แค่เรื่องของเงิน..แต่เป็นการปลูกฝันให้เป็นจริง </div>
<div dir="auto">วันนี้...เครื่องบินกระดาษในมือคุณ อาจดูเล็ก แต่มันคือต้นแบบของโบอิ้ง</div>
<div dir="auto">วันนี้...เรือกระดาษที่คุณพับ อาจดูไม่มีค่า แต่มันคือจุดเริ่มต้นของเรือยักษ์</div>
<div dir="auto">วันนี้...ต้นกล้าที่คุณปลูก อาจดูอ่อนแอ แต่มันคือรากฐานของป่าใหญ่</div>
<div dir="auto">&nbsp;</div>
<div dir="auto">คุณจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิดไว้</div>
<div dir="auto">เมื่อคุณมีแผนชีวิต </div>
<div dir="auto">และแผนชีวิต สร้างได้ที่ KKP EDGE</div>
&nbsp;
<h1 class="cvGsUA direction-ltr align-start para-style-body" style="text-align: left;">SERVICE WE SERVE</h1>
<img src="../../api/Product/GetImage/b4e6030e-ace7-48ff-a67c-cbd7ef7fc6e2.png" width="1500">
&nbsp;
<h1 class="cvGsUA direction-ltr align-start para-style-body" style="text-align: left;">PRODUCT WE PROVIDE </h1>
<h3 style="padding-left: 40px;">INVESTMENT บริการมืออาชีพด้าน&nbsp; &ldquo;การลงทุน&rdquo; </h3>
KKP EDGE บริการการลงทุนมืออาชีพจาก KKP อัดแน่นด้วยโปรดักการลงทุนที่ครอบคลุมและหลากหลาย ตั้งแต่การลงทุนยอดนิยมอย่างหุ้นกองทุนรวม ไปจนถึงสินทรัพย์ที่เข้าถึงได้ยาก เลือกลงทุนได้ด้วยตัวเองผ่านแอปฯ หรือลงทุนผ่านที่ปรึกษาการลงทุนมืออาชีพ
ลงทุนไปกับสินทรัพย์ที่หลากหลาย ...<a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE มืออาชีพด้าน &ldquo;การลงทุน&rdquo;" href="https://edge.uat.kkpfg.com/article/65">เพิ่มเติมคลิก</a> 
<h3 style="padding-left: 40px;">WEALTH PLANNING &ldquo;บริการวางแผนชีวิต&rdquo; </h3>
KKP EDGE สร้างแผนการลงทุนของคุณโดยเฉพาะ ครบทุกช่วงเวลาสำคัญของชีวิต วางแผนช่วงแรกของชีวิตการทำงานด้วยการวางแผนภาษีั ช่วงมีครอบครัวรับวางแผนการศึกษาบุตร รวมทั้งวางแผนเกษียณ และเหนือว่าใครด้วยแผนรับมือหลังเกษียณ รับแผนการเงินของคุณโดยเฉพาะ ..<a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE &ldquo;บริการวางแผนชีวิต&rdquo;" href="https://go.edge.co.th/FNPN-MNHK02">เพิ่มเติมคลิก</a> 
<h3 style="padding-left: 40px;">DEPOSIT สบายใจด้วย &ldquo;เงินฝาก&rdquo; ดอกเบี้ยสูง </h3>
KKP EDGE เพิ่มศักยภาพในการออมของคุณด้วยบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ที่ช่วยให้่ทุกก้าวทางการเงินของคุณมีความหมายมากขึ้นด้วยการ
รับดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ ... <a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE สบายใจด้วย &ldquo;เงินฝาก&rdquo; ดอกเบี้ยสูง" href="https://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/deposit/savings-account">เพิ่มเติมคลิก</a> 
<h3 style="padding-left: 40px;">INSURANCE อุ่นใจด้วย &ldquo;ประกัน&rdquo; </h3>
EDGE บริการป้องกัน Asset ที่คุณสั่งสมมาไม่ให้หายไปในพริบตา ด้วยเหตุไม่คาดฝัน ด้วยประกันคุณภาพที่จับมือกับบริษัท Genenrali บริษัทประกันยักษ์ใหญ่จากอิตาลี่ที่ให้บริการมานานกว่า 190 ปี
รับบริการวิเคราะห์กรรมธรรม์ ... <a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE อุ่นใจด้วย &ldquo;ประกัน&rdquo;" href="https://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/bancassurance/life-insusrance">เพิ่มเติมคลิก</a> 
<h3 style="padding-left: 40px;">LOAN เปิดโอกาสใหม่ด้วย &ldquo;สินเชื่อ&rdquo; ดอกเบี้ยพิเศษ</h3>
EDGE เปิดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษเฉพาะคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโอกาสใน &ldquo;บ้านหลังใหม่&rdquo; ด้วยสินเชื่อบ้าน เปิดโอกาส &ldquo;รถในฝัน&rdquo; ด้วยสินเชื่อรถ และ &ldquo;สร้างธุรกิจของคุณเอง&rdquo; ด้วยสินเชื่อธุรกิจ
เปิดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตด้วย
<ul>
<li>สินเชื่อ บ้าน ... <a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE เปิดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตด้วยสินเชื่อ บ้าน" href="https://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/loan/home-loan">เพิ่มเติมคลิก</a></li>
<li>สินเชื่อ รถ ... <a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE เปิดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตด้วยสินเชื่อ รถ" href="https://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/loan/auto-loan">เพิ่มเติมคลิก</a></li>
<li>สินเชื่อ ธุรกิจ&nbsp;... <a style="color: rgb(40, 54, 222);" title="EDGE เปิดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตด้วยสินเชื่อ ธุรกิจ" href="https://bank.kkpfg.com/th/personal-banking/loan/personal-loan">เพิ่มเติมคลิก</a> -----------------------------------------------------------------------------------------------</li>
</ul>
<div dir="auto" style="padding-left: 40px;">EDGE จะให้การลงทุนของคุณเปลี่ยนไป จาก "การลงทุน" เพื่อสร้างผลตอบแทน ไปสู่ "การวางแผน" เพื่อสร้างชีวิต</div>
<h2 style="padding-left: 40px;">WELATH WITH A PURPOSE LIFE WITH A PLAN</h2>
<h2 style="padding-left: 40px;">มากกว่าการลงทุนคือ แผนชีวิต </h2>
<a href="https://share.google/IeIYLDJd6s60AvrOf"><img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../api/Product/GetImage/047f9ba2-7e1f-4860-aa4d-78eabb6f56b6.png" width="1500"></a>

KKP EDGE : WELATH WITH A PURPOSE LIFE WITH A PLAN

KKP EDGE SERVICE มากกว่าการลงทุน คือแผนชีวิต

<h3 style="text-align: center;">เราคือบริการวางแผนการเงิน และการลงทุนครบวงจร ภายใต้ความเชี่ยวชาญ ของทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุน เราพร้อมช่วยคุณวางเป้าหมายทางการเงินให้เป็นรูปธรรม และเดินไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว</h3>
&nbsp;
<h2 style="text-align: center;">สิ่งที่คุณจะได้รับจาก EDGE by KKP</h2>
<table style="border-collapse: collapse; width: 100%; border-width: 0px; margin-left: auto; margin-right: auto;" border="1"><colgroup><col style="width: 33.3087%;"><col style="width: 33.3087%;"><col style="width: 33.3087%;"></colgroup>
<tbody>
<tr>
<td style="border-width: 0px;"><a href="https://go.edge.co.th/finplancontent" target="_blank" rel="noopener"><img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../api/Product/GetImage/da125c24-5641-4a06-887b-29474cc87ba5.png" alt="" width="180" height="286"></a></td>
<td style="border-width: 0px;"><a href="https://go.edge.co.th/downloadcontent" target="_blank" rel="noopener"><img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../api/Product/GetImage/7af5f9b1-7ebd-4dc1-bb8d-041bb127733d.png" alt="" width="180" height="286"></a></td>
<td style="border-width: 0px; text-align: left;"><a href="https://go.edge.co.th/modelcontent" target="_blank" rel="noopener"><img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../api/Product/GetImage/eb0b2826-b1f4-4fe5-bf10-accb36302432.png" alt="" width="180" height="286"></a></td>
</tr>
</tbody>
</table>
<h2 style="text-align: center;">วางแผนแล้ว ลงมือได้จริง</h2>
<h3 style="text-align: center;"> ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจร เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณ</h3>
&nbsp;
<table style="border-collapse: collapse; width: 100%; height: 427.782px; border-width: 0px;" border="1"><colgroup><col style="width: 100%;"></colgroup>
<tbody>
<tr style="height: 142.594px;">
<td style="text-align: center; height: 142.594px; border-width: 0px;"><a href="https://go.edge.co.th/servicecontent" target="_blank" rel="noopener"><img src="../api/Product/GetImage/f6f9c568-6c0e-495e-a78b-286150bb37fa.png" alt="" width="593" height="137"></a></td>
</tr>
<tr style="height: 142.594px;">
<td style="text-align: center; height: 142.594px; border-width: 0px;"><a href="https://go.edge.co.th/savingscontent" target="_blank" rel="noopener"><img src="../api/Product/GetImage/77348e28-5e65-44ea-8351-785cd4383981.png" alt="" width="593" height="137"></a></td>
</tr>
<tr style="height: 142.594px;">
<td style="text-align: center; height: 142.594px; border-width: 0px;"><a href="https://go.edge.co.th/insusrancecontent" target="_blank" rel="noopener"><img src="../api/Product/GetImage/00ec4467-3d7b-482a-acd5-ed7b3bd5dff9.png" alt="" width="593" height="137"></a></td>
</tr>
</tbody>
</table>
&nbsp;
<h2 style="text-align: center;">มั่นใจว่า...คุณอยู่กับมืออาชีพ EDGE by KKP พัฒนาโดยบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)</h2>
ซึ่งเพิ่งได้รับ 3 รางวัลใหญ่ระดับเอเชีย จากเวที Asian Private Banker Awards 2024
รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากลูกค้าและความเป็นผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินของเรา
<img src="../api/Product/GetImage/dbd08422-ae6e-41f7-ab31-37fa47c3d02b.png" alt="" width="654" height="243">
<h3 style="text-align: center;">มากกว่าการลงทุน&hellip;คือแผนชีวิต ให้ EDGE by KKP เดินเคียงข้างคุณในทุกเป้าหมาย</h3>

เราคือบริการวางแผนการเงิน และการลงทุนครบวงจร ภายใต้ความเชี่ยวชาญ ของทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุน
เราพร้อมช่วยคุณวางเป้าหมายทางการเงินให้เป็นรูปธรรม และเดินไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ทำความรู้จัก EDGE by KKP

<h1 style="text-align: center;">เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน</h1>
<h1 style="text-align: center;">ด้วยตราสารคุณภาพดี ความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ</h1>
<h2 style="text-align: center;">ระดับความเสี่ยง: 4</h2>
<h2 style="text-align: center;">เสนอขายครั้งแรก 25 พ.ย. &ndash; 3 ธ.ค. 2568</h2>
&nbsp;
รู้จักตราสาร &ldquo;CLO&rdquo; ตราสารแปลงกลุ่มสินเชื่อของบริษัทเอกชนต่างๆ ให้กลายเป็นหลักทรัพย์สำหรับลงทุน โดยมีกลุ่มสินเชื่อเหล่านั้นเป็นหลักประกัน ตราสารถูกจัดชั้นความเสี่ยง (Tranche) ตั้งแต่ระดับ AAA (CLO AAA) ที่ปลอดภัยสูงสุด ไปจนถึงชั้น Equity ที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่เสี่ยงกว่า ซึ่งรายได้มาจากดอกเบี้ยและเงินต้นที่บริษัทลูกหนี้จ่ายคืนอย่างมีลำดับ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงพร้อมผลตอบแทนที่น่าสนใจ
&nbsp;
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../api/Product/GetImage/e93a6e3a-ab1f-408a-b1db-8e6ae76c9a70.png" alt="" width="1080" height="1350">
&nbsp;
<h2> จุดเด่นของกองทุน</h2>
<h3>1.ความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ</h3>
เนื่องจากคัดเลือกตราสาร CLOs ในกลุ่ม Credit Rating AAAที่ไม่ผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมา* เพิ่มโอกาสสร้างกระแสรายได้ให้พอร์ต
&nbsp;
<h3>2.ทีมผู้จัดการกองทุนหลัก มีความเชี่ยวชาญ</h3>
กองทุนหลักบริหารโดยทีมผู้จัดการกองทุน PGIM ที่มีความเชี่ยวชาญในสินทรัพย์ Securitized product และมีเม็ดเงินภายใต้การบริหารกว่า 1.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมประสบการณ์เฉลี่ยกว่า 21 ปี
&nbsp;
<h3>3.เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน</h3>
เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนผ่าน CLO ที่อยู่ในระดับ Investment grade โดยกองทุนหลักประเมินและคัดเลือกการลงทุนด้วยวิธีเปรียบเทียบมูลค่า (Relative-value approach) ผสานการวิเคราะห์เชิงลึกแบบ Bottom-up และการติดตามตรวจสอบการลงทุนความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
&nbsp;
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด
<a href="https://am.kkpfg.com/th/news/2025112166524"><img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../api/Product/GetImage/1fedad16-7024-4948-af4d-84064330e6f9.png" alt="" width="803" height="420"> </a>
<h3><a href="https://media.kkpfg.com/document/2025/Nov/AM%20Sum%20KKP%20AAA%20CLO-USD.pdf">หนังสือชี้ชวนสรุปข้อมูลสำคัญ</a></h3>
<h3>สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้ดูแลบัญชีของท่าน หรือโทร &nbsp;02 305 9559&nbsp;</h3>
&nbsp;
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต |&nbsp;ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้กับบริษัท | กองทุนนี้บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเกียรตินาคินภัทร จำกัด ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร| สำหรับเงื่อนไขในการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุน KKP AAA CLO-USD นั้น บัญชีในการชำระเงินค่าซื้อและบัญชีรับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนต้องเป็นบัญชี FCD ของธนาคารเกียรตินาคินภัทร เท่านั้น | กรณีที่มีการลงทุนในสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงินฐาน (Base Currency) ของกองทุน กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging) ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ | *Source of defaults: Moody&rsquo;s as of 12/31/24, 1993 to 2024 10-yr cumulative WR-unadjusted defaults by original rating

รู้จักตราสาร “CLO” ตราสารแปลงกลุ่มสินเชื่อของบริษัทเอกชนต่างๆ  ให้กลายเป็นหลักทรัพย์สำหรับลงทุน โดยมีกลุ่มสินเชื่อเหล่านั้นเป็นหลักประกัน


ตราสารคุณภาพดี ความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ KKP AAA CLO-USD

<h1 style="text-align: center;">ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ดัชนี Nasdaq 100 เติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี </h1>
และถ้านับตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม ปี 2009 ดัชนีนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 22% ซึ่งหมายความว่าตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี หุ้นเทคโนโลยีได้สร้างผลตอบแทนในระดับที่เรียกได้ว่า &ldquo;สุดยอด&rdquo; อย่างแท้จริง
<h2>นี่คือหนึ่งใน ตลาดกระทิง (Bull Market) ที่น่าทึ่งที่สุดในประวัติศาสตร์ </h2>
โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพียงไม่กี่ราย ปัจจุบันหุ้นใหญ่ที่สุด 10 ตัวใน Nasdaq 100 มีน้ำหนักรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของดัชนี ซึ่งชื่อเหล่านี้ เช่น Apple Microsoft Amazon Nvidia และ Meta เป็นที่รู้จักกันดีของนักลงทุนทั่วโลก
ไม่แปลกที่ในช่วงนี้กระแสการพูดถึงคำว่า &ldquo;ฟองสบู่ (Bubble)&rdquo; จะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การจะนิยามคำว่าฟองสบู่ให้ชัดเจนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขหรือมูลค่าตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวพันกับ การประเมินมูลค่า (valuation) ความคาดหวังของนักลงทุน และ อารมณ์ในตลาด ซึ่งเป็นทั้งเรื่องเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในเวลาเดียวกัน
หากเราลองเปรียบเทียบผลตอบแทนของ Nasdaq 100 กับฟองสบู่ในอดีต เช่น ช่วง &ldquo;Roaring Twenties&rdquo; ของสหรัฐฯ ในทศวรรษ 1920, ฟองสบู่ญี่ปุ่นในทศวรรษ 1980, หรือยุค Dot-Com Bubble ในทศวรรษ 1990 ผลลัพธ์ที่ได้อาจทำให้นักลงทุนเริ่มรู้สึกกังวล แม้ตลาดปัจจุบันอาจยังไม่ถึงจุดสุดโต่งเท่ายุคดอทคอม แต่ผลตอบแทนในช่วงสิบปีที่ผ่านมาก็ใกล้เคียงกับระดับของฟองสบู่ในอดีตอยู่มาก และที่น่ากลัวคือ แต่ละรอบของฟองสบู่ในอดีตนั้นจบลงด้วยการพังทลายของตลาดครั้งใหญ่ และช่วงเวลาซบเซาที่ยาวนานหลายปีจนถูกเรียกว่า &ldquo;ทศวรรษที่สูญหาย&rdquo;
<h2>แม้ไม่มีใครสามารถบอกได้แน่นอนว่า ตลาดขาขึ้นในตอนนี้จะจบลงเมื่อไร </h2>
แต่สิ่งที่แน่ชัดคือ &ldquo;หุ้นเทคโนโลยีไม่สามารถเติบโตได้ 20% ต่อปีไปตลอดกาล&rdquo; เมื่อมูลค่าหุ้นเติบโตเร็วกว่าพื้นฐานของธุรกิจมากเกินไป ความเสี่ยงที่ตลาดจะเข้าสู่ช่วง การปรับฐาน หรือแม้กระทั่ง &ldquo;ฟองสบู่แตก&rdquo; ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
การพยายามคาดเดาว่าตลาดจะร่วงลงเมื่อใดอาจเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทำได้อย่างแม่นยำ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวแล้ว ประวัติศาสตร์ชี้ชัดว่าเมื่อ valuation ของหุ้นอยู่ในระดับสูงมาก ผลตอบแทนคาดหวังในระยะกลางถึงยาวจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แนวคิดนี้มักถูกเรียกว่า &ldquo;Reversion to the Mean&rdquo; หรือ &ldquo;การกลับคืนสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาว&rdquo; 
ซึ่งหมายถึงเมื่อผลตอบแทนของสินทรัพย์ใดสูงเกินค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่ง ก็มักจะตามมาด้วยช่วงเวลาที่ผลตอบแทนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ตัวอย่างชัดเจนคือ หลังจากยุคดอทคอมในปี 2000 ที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 400% ในเวลาเพียงไม่กี่ปี เมื่อฟองสบู่แตก ตลาดใช้เวลานานกว่า 15 ปีจึงกลับมาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ หรือแม้แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วง &ldquo;Roaring Twenties&rdquo; ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่า 25% ต่อปี ก็ตามมาด้วยทศวรรษที่ผลตอบแทนย่ำแย่ในช่วง Great Depression เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่าการเติบโตที่ร้อนแรงเกินจริงมักไม่ยั่งยืน และในระยะยาว ผลตอบแทนย่อมมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยทางประวัติศาสตร์เสมอ
<h2>ประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า &ldquo;ยิ่งผลตอบแทนในอดีตสูงเกินปกติไปเท่าไร ผลตอบแทนคาดหวังในอนาคตก็มีแนวโน้มลดลงตามนั้น&rdquo;</h2>
ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรทำในช่วงนี้คือ กลับมาทบทวนพอร์ตการลงทุนของตนเอง ว่ามีการกระจุกตัวอยู่ในหุ้นเทคโนโลยีมากเกินไปหรือไม่ และพิจารณา กระจายความเสี่ยง ไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น หุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าต่ำ, หุ้นนอกสหรัฐฯ, หรือ พันธบัตร เพื่อสร้างสมดุลให้พอร์ตการลงทุนเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้
<h3 style="text-align: center;">&nbsp;</h3>
<h3 style="text-align: center;">ตลาดกระทิงอาจยังไม่จบในวันนี้หรือปีหน้า </h3>
<h3 style="text-align: center;">แต่การเตรียมความพร้อมและการลงทุนอย่างมีวินัยคือสิ่งที่จะช่วยให้นักลงทุน อยู่รอดได้แม้วันที่ฟองสบู่จะแตก</h3>

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ดัชนี Nasdaq 100 เติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี และถ้านับตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม ปี 2009 ดัชนีนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงถึง 22% ซึ่งหมายความว่าตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี หุ้นเทคโนโลยีได้สร้างผลตอบแทนในระดับที่เรียกได้ว่า “สุดยอด” อย่างแท้จริง

วัฏจักรที่ไม่เคยเปลี่ยนในตลาดหุ้น

<h2>กระแส AI ลากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกให้ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างร้อนแรง แต่ในที่สุดความผันผวนก็กลับมาอีกครั้งโดย S&amp;P500 มีความผันผวนสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ไม่แปลกที่นักลงทุนหลายคนจะเริ่มตั้งคำถามว่าเรากำลังอยู่ในฟองสบู่ที่ใกล้จะแตกเต็มทีแล้วหรือไม่ และควรทำอย่างไรเพื่อเตรียมรับมือกับการแตกของฟองสบู่นั้น </h2>
หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านฟองสบู่ทางการเงินที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ เจเรมี แกรนแธม จากบริษัท GMO ซึ่งเคยเขียนไว้ตั้งแต่ มกราคม 2021 ว่า &ldquo;ตลาดกระทิงอันยาวนานตั้งแต่ปี 2009 ได้เติบโตจนกลายเป็นฟองสบู่ขนาดยักษ์อย่างเต็มรูปแบบ&rdquo; ที่มี &ldquo;การประเมินมูลค่าสูงเกินจริง ราคาพุ่งแรง การออกหุ้นเพิ่มทุนอย่างบ้าคลั่ง และพฤติกรรมนักลงทุนที่เก็งกำไรเกินเหตุ&rdquo; เขาเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้กับฟองสบู่ประวัติศาสตร์อย่าง South Sea Bubble, ปี 1929 และฟองสบู่ Dotcom ปี 2000 พร้อมเตือนว่าการแตกของฟองสบู่นี้อาจสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและพอร์ตการลงทุน
แม้คำเตือนของแกรนแธมจะมีเหตุผล และน่าเชื่อถือ แต่จนถึงตอนนี้ ดัชนี S&amp;P 500 เพิ่มขึ้นเกือบ 90% ขณะ Nasdaq เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวนับตั้งแต่วันที่เขาเตือน จะเห็นได้ว่าการคาดเดาจุดสิ้นสุดของฟองสบู่ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญเองก็ตาม
แต่ถ้าสมมติว่าเราอยู่ในช่วงสุดท้ายของฟองสบู่ที่ใกล้จะแตกล่ะ เราควรทำอย่างไร?
<h2>ทางเลือกสี่แนวทางสำหรับนักลงทุนในยุคฟองสบู่มีแนวทางหลัก ๆ ให้เลือก 4 ทาง ได้แก่</h2>
<h3>1. ลงทุนเต็มตัว (Go All-In)</h3>
นักลงทุนระดับตำนานอย่าง จอร์จ โซรอส เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าเขารู้ว่าตลาดกำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่เมื่อไร เขาจะเลือกใช้โอกาสนี้ทำกำไรจากแรงโมเมนตัมอย่างเต็มที่ก่อนที่ฟองสบู่จะแตก แนวคิดนี้ดูสุดโต่งและย้อนแย้งแต่สถิติชี้ให้เห็นว่า ช่วงที่ตลาดใกล้จะพังมากที่สุดกลับเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ตลาดจะให้ผลตอบแทนสูงที่สุดเช่นเดียวกัน ดังนั้น หากใครเชื่อว่าตลาด AI อยู่ในภาวะฟองสบู่การเทน้ำหนักไปที่หุ้นกลุ่ม AI เช่น Nvidia, Oracle, หรือ Meta จะเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยจังหวะที่แม่นยำและ แผนการออกจากตลาดที่ชัดเจนจึงจะทำกำไรได้งามๆ แต่เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ใช่จอร์จ โซรอส การเข้าไปลงทุนด้วยกลยุทธ์นี้มักจะจบไม่สวยเสียมากกว่า
<h3>2. ป้องกันความเสี่ยง (Hedge)</h3>
ตรงกันข้ามกับวิธีแรก สำหรับนักลงทุนที่ระมัดระวังอาจเลือกลดการถือสินทรัพย์เสี่ยงๆมาถือเงินสด ซื้อพันธบัตร หรือลงทุนในกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าปกติ แต่ปัญหาคือ การจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะในช่วงฟองสบู่ เพราะไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวว่าราคาที่แม้ทุกคนรู้ว่าสูงเกินจริงจะวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน การพลาดช่วงราคาพุ่งครั้งสุดท้ายอาจทำให้รู้สึกเสียใจไม่แพ้การเจ็บตัวในช่วงตลาดตก
<h3>3. กระจายความเสี่ยง (Diversify)</h3>
แม้จะมั่นใจว่าตลาดอยู่ในฟองสบู่ นักลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องออกจากตลาดทั้งหมด การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้นขนาดเล็ก หุ้นคุณค่า หรือพันธบัตร สามารถช่วยลดความเสียหายได้ ในช่วงฟองสบู่ดอทคอมปี 2000-2002 หุ้นเทคโนโลยีร่วงหนักจริงโดย NASDAQ ร่วงลงไปกว่า 70% แต่หุ้นขนาดเล็กในกลุ่ม Value กลับให้ผลตอบแทนที่ดีได้อย่างสวนทางกัน (+21%) ส่วนตราสารหนี้ก็สามารถทำผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี (+30%)
<h3>4. ไม่ทำอะไรเลย (Do Nothing)</h3>
กลยุทธ์ที่เรียบง่ายแต่ยากที่สุด คือ อยู่เฉย ๆ หากเรามีแผนการลงทุนระยะยาวที่เหมาะกับความเสี่ยงของตัวเอง การไม่ปรับพอร์ตบ่อย ๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แน่นอนว่าต้องอดทนต่อความผันผวน และเชื่อมั่นในกระบวนการลงทุนของตัวเอง แต่หากมั่นใจว่าพอร์ตมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมแล้ว ความอดทนนี่แหละมักเป็นรางวัลที่คุ้มค่าที่สุดในระยะยาว
<h4 style="text-align: center;">ฟองสบู่ในตลาดเป็นทั้งสิ่งที่น่าตื่นเต้นและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ คำตอบอาจไม่ใช่การพยายามคาดเดา &ldquo;เมื่อไหร่ฟองสบู่จะแตก&rdquo; แต่คือการ เตรียมใจและวางแผนให้พร้อม เมื่อวันนั้นมาถึงต่างหาก</h4>

กระแส AI ลากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกให้ปรับเพิ่มขึ้นมาอย่างร้อนแรง แต่ในที่สุดความผันผวนก็กลับมาอีกครั้งโดย S&P500 มีความผันผวนสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี ไม่แปลกที่นักลงทุนหลายคนจะเริ่มตั้งคำถามว่าเรากำลังอยู่ในฟองสบู่ที่ใกล้จะแตกเต็มทีแล้วหรือไม่ 

ลงทุนอย่างไรในช่วงฟองสบู่

<h2 style="text-align: center;">EDGE สามารถใช้บริการด้วยตัวเองผ่าน 2 ช่องทาง</h2>
<table style="border-collapse: collapse; width: 100%; height: 83.3594px;" border="1"><colgroup><col style="width: 49.9749%;"><col style="width: 49.9749%;"></colgroup>
<tbody>
<tr style="height: 19.5938px;">
<td style="height: 19.5938px; text-align: center;">1. APPLICATION</td>
<td style="height: 19.5938px; text-align: center;">2. WEBSITE</td>
</tr>
<tr style="height: 63.7656px;">
<td style="height: 63.7656px; text-align: center;">
ดูวิธีใช้งานผ่านแอป KKP Better <a href="3614">คลิกที่นี่</a>
</td>
<td style="height: 63.7656px; text-align: center;">
ดูวิธีใช้งานผ่านเว็บไซต์ EDGE.CO.TH <a href="3615">คลิกที่นี่</a>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<h1 style="text-align: center;">รวมวิธีใช้งานลงทุน EDGE ผ่าน WEBSITE</h1>
<table style="border-collapse: collapse; width: 100%; height: 212.422px;" border="1"><colgroup><col style="width: 6.68342%;"><col style="width: 73.2663%;"><col style="width: 20.0503%;"></colgroup>
<tbody>
<tr style="height: 55.6719px;">
<td style="text-align: center; height: 55.6719px;">
<h3>NO.</h3>
</td>
<td style="text-align: center; height: 55.6719px;">
<h3>HOW TO&nbsp;</h3>
</td>
<td style="text-align: center; height: 55.6719px;">
<h3>LINK&nbsp;</h3>
</td>
</tr>
<tr style="height: 39.1875px;">
<td style="text-align: center; height: 39.1875px;">1</td>
<td style="height: 39.1875px; text-align: left;">วิธีการ Login เข้าใช้งานเว็บไซต์</td>
<td style="text-align: center; height: 39.1875px;"><a href="https://edge.co.th/article/271">CLICK</a></td>
</tr>
<tr style="height: 19.5938px;">
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;">2</td>
<td style="text-align: left; height: 19.5938px;">How to การซื้อขายหุ้น (Streaming) บนเว็บไซต์</td>
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;"><a href="https://edge.co.th/article/279">CLICK</a></td>
</tr>
<tr style="height: 39.1875px;">
<td style="text-align: center; height: 39.1875px;">3</td>
<td style="height: 39.1875px; text-align: left;">How to ซื้อ กองทุนรวม (Mutual Funds) บนเว็บไซต์</td>
<td style="text-align: center; height: 39.1875px;"><a href="https://edge.co.th/article/273">CLICK</a> </td>
</tr>
<tr style="height: 19.5938px;">
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;">4</td>
<td style="height: 19.5938px; text-align: left;">How to ขาย&nbsp;กองทุนรวม (Mutual Funds) บนเว็บไซต์</td>
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;"><a href="https://edge.co.th/article/280">CLICK</a></td>
</tr>
<tr style="height: 19.5938px;">
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;">5</td>
<td style="height: 19.5938px; text-align: left;">How to สับเปลี่ยน กองทุน (Switch) บนเว็บไซต์</td>
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;"><a style="color: rgb(40, 54, 222);" href="https://edge.co.th/article/285">CLICK</a> </td>
</tr>
<tr style="height: 19.5938px;">
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;">6</td>
<td style="height: 19.5938px; text-align: left;">How to การลงทุนแบบ DCA บนเว็บไซต์</td>
<td style="text-align: center; height: 19.5938px;">&nbsp;<a style="color: rgb(40, 54, 222);" href="https://edge.co.th/article/281">CLICK</a></td>
</tr>
<tr>
<td style="text-align: center;">7</td>
<td style="text-align: left;">วิธีการดูรายการย้อนหลังบนเว็บไซต์ (Activities)</td>
<td style="text-align: center;">&nbsp;<a style="color: rgb(40, 54, 222);" href="https://edge.co.th/article/288">CLICK</a></td>
</tr>
</tbody>
</table>
<a href="https://m.kkpfg.com/W6Bx/edgetobetter"><img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../api/Product/GetImage/05f03bd0-55c3-4bd0-a8eb-ea961800768a.png" alt="" width="800" height="319"></a>

รวมวิธีใช้งาน EDGE ผ่าน WEBSITE