Home
/Product
/Promotion
/Article
/Help
คนที่ยังถือ LTF อาจใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งไฟเขียวมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้น เตรียมจัดตั้งกองทุน “Thai ESGX” ซึ่งถ้าชาว LTF อยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษีต่อ ก็โยกไปยังกองทุนน้องใหม่นี้ได้ รวมถึงนักลงทุนหน้าใหม่ ก็สามารถซื้อได้เช่นกัน โดยคาดว่าจะยื่นขออนุมัติจัดตั้ง Thai ESGX ได้ภายในเดือนเมษายน 2568
.
เราลองไปทำความรู้จักกองทุนน้องใหม่ และส่องสิทธิลดหย่อนภาษีกันดีกว่า
Thai ESGX มีชื่อเต็มว่า กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund) เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี รองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ สำหรับการลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด 2 เดือน (คาดว่าจะเป็น 1 พ.ค.-30 มิ.ย. 2568)
ใช้หลักการคัดเลือกสินทรัพย์เช่นเดียวกับ Thai ESG โดยต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ประกอบด้วย
- หุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
- ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน Green/Sustainability/Sustainability-linked bonds ที่ออกโดยเอกชน และที่ออก/ค้ำโดยรัฐ
- โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่ส่งเสริมความยั่งยืน Green/Sustainability/Sustainability-linked tokens
1.คนที่ถือ LTF อยู่แล้ว
ทุกกองทุน ทุก บลจ. (ยกเว้น Class SSF) สามารถใช้สิทธิ์ย้ายมูลค่าหน่วยลงทุนที่มี มายังกองทุน Thai ESGX ได้เลย (***ต้องย้ายทั้งหมด)
โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่แจ้งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน)
ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท แบ่งใช้สิทธิได้ 5 งวด
งวดที่ 1 (ปี 2568) : สูงสุด 300,000 บาท
งวดที่ 2-5 : สูงสุดปีละ 50,000 บาท
2.นักลงทุน Thai ESGX รายใหม่
ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)
ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท (ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน)
กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดโอกาสให้สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF ได้ตามความสมัครใจ ไม่ได้บังคับ
ซึ่งถ้าต้องการถือ LTF ต่อไป หลังจากหมดระยะเวลาสับเปลี่ยน LTF จะถูกเปลี่ยนเป็นกองทุนรวมผสม โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นไทยไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV และจะเปิดขายเหมือนกับกองทุนรวมทั่วไป
เนื่องจากกองทุน Thai ESGX จะให้สิทธิลดหย่อนภาษีตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของผลตอบแทน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มฐานภาษีสูง
ดังนั้นคนที่ถือ LTF อยู่ตอนนี้ สามารถแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและโอนหน่วยการลงทุน LTF ทั้งหมดที่ถือครอง ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 เข้ามาอยู่ในกองทุน Thai ESGX ที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่ โดยต้องแจ้งความประสงค์ต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่บริหารกองทุนภายในระยะเวลาที่กำหนด (คาดว่าจะเป็น 1 พ.ค.-30 มิ.ย. 2568)
นอกจากนี้ ถ้าใครถือ Thai ESG อยู่แล้ว หากต้องการถือ Thai ESGX ด้วย #ควรซื้อภายในปีนี้ เพื่อให้ใช้สิทธิลดหย่อนได้ทั้ง 2 วงเงิน เพราะตั้งแต่ปี 2569 Thai ESGX จะใช้วงเงินลดหย่อนเดียวกับ Thai ESG
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาผลตอบแทนจากการประหยัดภาษีในรูปแบบของผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี พบว่าหากผู้ลงทุนถือครองกองทุน LTF ครบ 5 ปี ผลตอบแทนรวมจากการประหยัดภาษีจะอยู่ที่ประมาณ 8% ต่อปี
ภายใต้สมมติฐานว่า
1.กองทุน LTF ที่ถือครองให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นศูนย์ (0%) ต่อปี
2.ผู้ลงทุนอยู่ในอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ 35%
3.เงินลงทุนใน LTF คือ 500,000 บาท
คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
*KKP MOBILE โดย ธ.เกียรตินาคินภัทร เป็นช่องทางการให้บริการของ บล.เกียรตินาคินภัทร
.
ข้อมูล ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568
.
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx...
![]() | ![]() | ![]() |
HOW TO สับเปลี่ยนกองทุนจาก LTF มาเป็น ThaiESGX |
![]() | ![]() | ![]() |
ขั้นตอนการเปิดบัญชีใหม่ CLICK |