รู้ไว้...จะได้ไม่รู้งี้!
3 ความเชื่อเรื่องวางแผนการเงิน ที่อาจทำให้เราพลาดเป้าหมาย
1.เชื่อว่าวางแผนการเงินด้วยการเก็บออมอย่างเดียว ก็ไปถึงเป้าหมายได้
.
แต่ละคนอาจมีเป้าหมายทางการเงินไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทุกคนเหมือนกันคือ
“เรามีระยะเวลาในการเก็บออมเงินจำกัด”
ดังนั้นตัวช่วย
วางแผนการเงิน ที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายได้เร็วที่สุด จึงสำคัญมาก
.
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราตั้งเป้าหมายมีเงินก้อนใช้หลังเกษียณ 5 ล้านบาท
โดยมีความสามารถในการออมเดือนละ 5,000 บาท
ถ้านำเงินไปฝากไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนราว 0.25%
จะต้องใช้เวลานานถึง ‼️ 76 ปี ‼️ จึงจะบรรลุเป้าหมาย
...ซึ่งเป็นไปได้ยากมากๆ ที่เราจะเก็บออมได้ยาวนานขนาดนั้น
และกว่าจะได้ใช้เงินเกษียณก้อนนี้ เราอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้
.
แต่ถ้าเรานำเงินไปลงทุนเดือนละ 5,000 บาท ต่อเนื่องทุกเดือน
ในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 7%
โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สม่ำเสมอได้ ภายในช่วงระยะเวลาเป้าหมาย
เราจะบรรลุเป้าหมายได้ภายใน ✅ 28 ปี ✅ เท่านั้น
ซึ่งเร็วกว่าการฝากเงิน และยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าอีกด้วย
❌ 2.เชื่อว่าการทุ่มลงทุนสินทรัพย์เดียว ก็ประสบความสำเร็จได้
.
หากเราศึกษาสินทรัพย์เป้าหมาย จนเข้าใจพื้นฐานอย่างรู้ลึกรู้จริง
และคาดการณ์การเติบโตในอนาคตได้อย่างแม่นยำ
ก็เป็นไปได้ที่จะสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยสินทรัพย์เดียว
.
แต่ไม่มีสินทรัพย์ไหนเป็นผู้ชนะไปตลอด
และโลกการลงทุนก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย (Asset Allocation) 📊
ไม่เน้นจับจังหวะตลาดหรือเลือกหลักทรัพย์ จะทำให้เราคว้าโอกาสที่ดีได้
.
นอกจากนี้ยังช่วยสร้างผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว
ลดความเสี่ยงจากการซื้อขายเข้าออกผิดจังหวะ ลดความผันผวนของพอร์ต
ถ้าในปีนั้นตลาดเป็นบวก ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้เหมาะสม
แต่ถ้าปีไหนตลาดเป็นลบ ก็จะช่วยลดการขาดทุนของพอร์ตโดยรวม
❌ 3.เชื่อว่าการเฝ้าตลาดซื้อขาย จะได้ผลตอบแทนดีกว่าลงทุนระยะยาว
.
แม้กระทั่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนตัวท็อปของโลก
ยังบอกว่าถ้าใครไม่เจ๋งจริง ไม่ใช่นักลงทุนมืออาชีพ
#อย่าพยายามจับจังหวะตลาดเพื่อซื้อขา
แต่แนะนำให้ลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง
หรือผู้จัดการกองทุนมืออาชีพในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่บริหารแบบ Active
ก็มีเพียง 10-20% เท่านั้นที่ทำผลตอบแทนชนะตลาด
.
📈 สำหรับนักลงทุนมือสมัครเล่น การมองตลาดเพียงระยะสั้น
อาจทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด เสียโอกาสในการลงทุนได้
ดังนั้นแทนที่จะติดตามการลงทุนตลอดเวลา
ก็ลองแกล้งๆ ตัดการลงทุนให้เป็นอัตโนมัติ
ไม่ต้องเฝ้าตลาด แต่คอย Rebalance พอร์ตบ่อยๆ
โดยคิดถึงผลตอบแทนในอีก 20-30 ปีข้างหน้าจะดีกว่า
ดังนั้นถ้าเราวางแผนการเงิน โดยหลีกเลี่ยง 3 ข้อนี้ ก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
ลงทุนกับ EDGE ผ่านแอป KKP MOBILE สะดวกสบาย
ถ้ายังไม่มีแอปฯ ดาวน์โหลดได้เลยที่

HOW TO ของ EDGE ที่น่าสนใจ