สำหรับนักลงทุนทั่วไป ถ้าตลาดอยู่ในช่วงขาลง...ก็ว่าเครียดแล้ว

แต่ถ้ากำลังจะเกษียณในช่วงนี้ด้วย อาจเครียดยิ่งกว่า

เพราะนั่นแปลว่า ผลตอบแทนของพอร์ตเกษียณจะได้ต่ำกว่าที่คาด

จึงกระทบกับการเกษียณที่วางแผนการเงินไว้แน่นอน

คริส โอเรสติส ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนเกษียณอายุ ได้ให้คำแนะนำว่า

หากเป็นไปได้ อย่าเพิ่งเกษียณในช่วงตลาดขาลงจะดีกว่า

แต่ให้เลื่อนอายุเกษียณออกไปอย่างน้อย 1-2 ปี หรือจนกว่าแนวโน้มตลาดจะดีขึ้น

เพื่อให้มีเวลารอตลาดฟื้นตัว จนผลตอบแทนกลับมาใกล้เคียงเดิมกับที่คาดการณ์ไว้

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเลื่อนอายุเกษียณได้ เช่น พนักงานประจำที่บริษัทมีการกำหนดอายุเกษียณชัดเจน

ซึ่งก็แก้เกมได้ด้วย 3 ข้อนี้

1.วางแผนการเงิน เตรียมเงินสดสำรองเพิ่ม

ถ้าเราเลือกที่จะเกษียณตามแผนเดิม ก็ไม่ควรถอนเงินจากพอร์ตเกษียณออกมาใช้จ่าย
เราจึงต้องวางแผนการเงิน โดยเตรียมเงินสดสำรองเพิ่มเติม ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายราว 2 ปีหลังเกษียณ
โดยเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง แล้วรอให้ตลาดฟื้นตัว
จนผลตอบแทนกลับมาใกล้เคียงเดิมกับที่คาดการณ์ไว้
จึงจะเริ่มถอนเงินเกษียณออกมาใช้ได้

2.Asset Allocation ลงทุนกระจายสินทรัพย์ทั้งตลาด

การจัดพอร์ตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ยิ่งใกล้เกษียณมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งควรปรับพอร์ตให้ Customize มากขึ้น
เพราะแต่ละคนตั้งเป้าหมายเกษียณต่างกัน และรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน

กลยุทธ์ที่แนะนำคือการ Asset Allocation ลงทุนกระจายสินทรัพย์ทั้งตลาด
เพื่อกระจายความเสี่ยง ต่อให้เจอตลาดขาลง แต่ก็จะกลับมาให้ผลตอบแทนใกล้เคียงเดิม

3.ลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด

คนที่ปิดหนี้สินได้ทั้งหมดก่อนถึงวัยใกล้เกษียณ ก็จะเบาใจไปได้เยอะ
แต่ถ้าเจอตลาดขาลง แปลว่ารายได้ที่เคยประเมินไว้จะต่ำกว่าที่คาด
ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบแผนเกษียณมากเกินไปนัก เราจึงต้องวางแผนการเงิน
ควบคุมค่าใช้จ่ายหลังเกษียณให้ได้มากที่สุด
โดยตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น บริการสตรีมมิ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน
สมาชิกฟิตเนสที่เราอาจจะใช้บริการไม่ได้เหมือนเดิม
เมื่อตลาดมีแนวโน้มดีขึ้น ถ้าเรายังต้องการสิ่งเหล่านี้อยู่ ค่อยกลับมาสมัครใหม่ก็ได้

ลงทุนกับ EDGE ผ่านแอป KKP MOBILE สะดวกสบาย
ถ้ายังไม่มีแอปฯ ดาวน์โหลดได้เลยที่

เทคนิควางแผนการเงิน ของ EDGE ที่น่าสนใจ