[ แคมเปญนี้จบลงแล้ว ]
EDGE Commission Free Day
เทรดหุ้นไทย ฟรี ไม่มีค่าคอมที่ EDGE
16 ก.ค. 2567 วันเดียวเท่านั้น!
✅ ฟรีค่า Commission ในการซื้อหุ้นไทย 500,000 บาทแรก สำหรับยอดคำสั่งซื้อที่ทำรายการสำเร็จในวันที่ 16 ก.ค. 2567 เวลา 10.00 – 12.30 น. และ 14.30 – 16.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
✅ พิเศษ! สำหรับลูกค้า EDGE Silver, Gold และ Platinum (ลูกค้าบุคคล) ที่เปิดบัญชีลงทุน EDGE สำเร็จภายในวันที่ 12 ก.ค. 2567 เท่านั้น
✅ สำหรับลูกค้าที่ส่งคำสั่งซื้อด้วยตัวเองผ่านบัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance) ผ่านแอป Streaming เท่านั้น

กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรม (AGRO): AU, BTG, CPF, GFPT, OSP, TFG
กลุ่มธุรกิจการเงิน (FINCIAL): SCB, TIDLOR, TLI, TTB
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (INDUS): IVL, PTTGC, SCGP
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (PROPCON): AMATA, AWC, CPN, CPNREIT, SC, SIRI, SPALI, TOA, WHA
กลุ่มทรัพยากร (RESOURC): BANPU, BGRIM, BSRC, GPSC, PTT, PTTEP, SPRC, TOP
กลุ่มบริการ (SERVICE): AOT, BCH, BDMS, BH, CENTEL, CHG, CPALL, DOHOME, ERW, GLOBAL, MINT, PLANB, PR9, SPA, TFFIF
กลุ่มเทคโนโลยี (TECH): 3BBIF, ADVANC, DIF, INTUCH, TRUE
โพยหุ้นไทยแนะนำจากบล.เกียรตินาคินภัทร
Stock Highlight 3 ธีมลงทุนหุ้นไทยไม่หลงทิศ
1.หุ้นปันผล

- Target Price 24.00
- Upside 27%
- ทำไมบล.เกียรตินาคินภัทร จึงมองว่า SPALI เป็นหุ้นปันผล
- โดยปกติ ตัวเลขกำไรของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มักจะแตะจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 และฟื้นตัวขึ้นในไตรมาสถัดๆ ไป ในภาพใหญ่มีปัจจัยสนับสนุนจากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยอาจจะเริ่มลดลงในอนาคตความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระยะยาวน่าจะยังคงมีอยู่ ดังนั้น หุ้นอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี และมีความอดทนรอคอยการฟื้นตัวของตลาด
- สำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด คือ SPALI ที่มีการมีโครงการที่เจาะเป้าหมายตลาดกลุ่มระดับกลางบนเป็นหลัก
- SPALI มีแผนเปิดตัวโครงการที่รุกแรงที่สุด เนื่องจากมีโอกาสขยายโครงการบ้านจัดสรร (landed property projects) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงมีประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมค่าใช้จ่าย
- อีกทั้งยังมียอดขายล่วงหน้าคงค้าง (presales backlog) คิดเป็นสัดส่วน 59% สำหรับ SPALI ยอดขายล่วงหน้าคงค้างเหล่านี้บ่งชี้ถึงรายได้ที่ค่อนข้างแน่นอนที่จะรับรู้ในอนาคต และคาดว่าจะมีความชัดเจนของรายได้เพิ่มขึ้นอีก จากการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 3 แห่งที่เพิ่งสร้างเสร็จ
- ราคาเป้าหมาย (PO) 12 เดือนของเราอยู่ที่ 24.00 บาท โดยอิงจากกำไรต่อหุ้น (EPS) สำหรับปี 2024E ใช้วิธีการประเมินมูลค่าโดยอิงจาก Price to Earning Ratio เป้าหมายที่ 7.5 เท่า (ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระยะยาวในช่วงปี 2004-2023) ซึ่งสูงกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรม
- ความเสี่ยงด้านลบต่อราคาเป้าหมายของเรามีดังนี้ สภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้ยอดขายบ้านที่ช้ากว่าที่คาด อีกมุมหนึ่งคือ นโยบายการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นจากธนาคารพาณิชย์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นแรงกว่าที่คาดการณ์

- Target Price 128.00
- Upside 20%
- ทำไมบล.เกียรตินาคินภัทร จึงมองว่า SCB เป็นหุ้นปันผล
- แม้ว่าแนวโน้มของกลุ่มธนาคารโดยรวมจะดูไม่สดใส จากการเติบโตสินเชื่อที่อ่อนแอ (weak loans) กำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิลดลง (low NIM) และคุณภาพสินทรัพย์ไม่ดี (poor asset quality) แต่ธนาคารที่มีการบริหารจัดการเงินทุนที่แข็งแกร่งมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีกว่า โดยเรามองว่า SCB นั้นทำได้ดีที่สุดในกลุ่มธนาคาร
- มีการเพิ่มจำนวนเงินฝากสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน (MoM) ในเดือนเมษายน 2567 มีการเติบโตสินเชื่อให้กับนิติบุคคล (corporate loan) ได้ค่อนข้างดี สาเหตุน่าจะมาจากนักลงทุนระมัดระวังในการลนทุนในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องหันมาพึ่งธนาคารในการหาแหล่งเงินกู้
- SCB มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (dividend yield) ในระดับที่น่าสนใจประมาณ 7% ในปี 2024E
- ปัจจัยเสี่ยงยังคงต้องเฝ้าระวังปัญหาต้นทุนเงินทุนที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจการเงิน ซึ่งจะทำให้ NIM หรือส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากลดลง
2.หุ้น Under Value

- Target Price 72.00
- Upside 23%
- ทำไมบล.เกียรตินาคินภัทร จึงมองว่า CPALL เป็นหุ้น Under Value
- ผลการดำเนินการของหุ้นกลุ่มค้าปลีก ทำได้ค่อนข้างดีในครึ่งปีแรก โดยได้รับผลบวกจากการเปิดเมืองและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
- โดย CPALL เป็นบริษัทที่มีผลประกอบการดีที่สุด โดยกำไรสุทธิเติบโต 48% เมื่อเทียบเป็นรายปี เมื่อเทียบกับร้านค้าปลีกอื่น ๆ อีกทั้ง CPALL น่าจะมีโอกาสเติบโตสูงสุดจากโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล
- ราคาเป้าหมายของ CPALL ที่ 72.00 บาท คำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ยระหว่างการประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF (Discounted Cash Flow) ที่ 71.00 บาท และการประเมินมูลค่าด้วยวิธี PER target ที่ 73.00 บาท
- ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) (และส่วนของกำไรจากบริษัทย่อย) ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความเสี่ยงด้านธรรมาภิบาล และการเข้าซื้อกิจการขนาดใหญ่ที่อาจส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท

- Target Price 40.00
- Upside 27%
- ทำไมบล.เกียรตินาคินภัทร จึงมองว่า MINT เป็นหุ้น Under Value
- ธุรกิจของ MINT มีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) โดยรายได้ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากอัตรา RevPAR ที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันอัตรากำไรก็ดีขึ้นจากการใช้ประโยชน์จากขนาด (operating leverage)
- คาดว่าธุรกิจโรงแรมของ MINT จะกลับมามีกำไรอีกครั้งในไตรมาส 2 ปี 2564 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวไฮซีซั่นของโรงแรมในยุโรป (คิดเป็น 60% ของรายได้โรงแรม)
- รายได้เติบโตแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีรายได้เติบโต 22.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) ในขณะเดียวกัน ธุรกิจอาหารยังคงมีการเติบโต 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากการดำเนินงานในประเทศไทย ในขณะที่ธุรกิจอาหารในประเทศจีนยังคงเป็นจุดอ่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและฐานข้อมูลที่สูงในปี 2023 และ valuation น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ 2024 EV/EBITDA 5.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มท่องเที่ยวที่ 14.4 เท่า และค่าเฉลี่ยของ MINT ในช่วงก่อนโควิดที่ 16 เท่า
3. หุ้น New Economy

- Target Price 6.20
- Upside 22%
- ทำไมบล.เกียรตินาคินภัทร จึงมองว่า WHA เป็นหุ้น New Economy
- หนึ่งในบริษัทชั้นนำในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่มีห่วงโซ่คุณค่าแบบบูรณาการ (recurring business) ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้า โลจิสติกส์ สาธารณูปโภค และพลังงานขนาดของ
- โดย WHA มีมูลค่าตามราคาตลาด (market capitalization) ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมฝ่ายบริหารมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ผ่านแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่ชัดเจน มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจที่เป็นปกติ (normalized business growth) ที่ 40%
- เรามองว่า ขาขึ้นของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในปีนี้ คาดว่าจะยังคงต่อเนื่องไปอีกในปีหน้า เราคาดการณ์ว่ารายได้ของ WHA จะโตมากถึง 24% ในปีหน้า
- ทั้งนี้ ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมยังมีอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของบริษัทในจีนที่จะเพิ่มฐานการผลิตนอกประเทศ รวมไปถึงการบริหารจัดการ supply chain หรือหวงโซ่อุปทาน
- โดยเราคาดการณ์ว่าปีหน้าจะเห็นความต้องการซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่ 5,600-5,700 ไร่ สูงกว่าจุดสูงสุดในปี 2555 ที่ 5,372 ไร่
- ในขณะที่ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนที่ดินกลับมีไม่พอ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของธุรกิจนี้ เนื่องจากการซื้อที่ดินและขยายบริการพื้นฐานต้องใช้เวลาและการขออนุญาตจากทางการ
- โดยจำนวนที่ดินที่ว่างในนิคมอุตสาหกรรมลดลงสามไตรมาสติดแล้ว
- เราปรับประมาการรายได้สำหรับ WHA ขึ้น 1% สำหรับปีนี้ 4% สำหรับปีหน้า และ 6% จากยอดขายที่ดินที่อยู่ในระดับสูงในช่วง 9 เดือนแรกของปี เราคาดว่า WHA จะขายที่ดินได้ 2,700 ไร่ในปีหน้า แต่มาร์จิ้นไม่น่าจะโตได้มากเนื่องจากราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อที่ดินเพิ่มตาม

- Target Price 7.40
- Upside 31%
- ทำไมบล.เกียรตินาคินภัทร จึงมองว่า 3BBIF เป็นหุ้น New Economy
- บริษัทประกาศกำไรจากการลงทุนสุทธิใน 1Q24 ที่ 1.5 พันล้านบาท (-34% YoY แต่คงที่ QoQ)
- กำไรที่ลดลง YoY เกิดจากการปรับโครงสร้างค่าเช่าเมื่อเดือน ส.ค. 2023 โดยได้มีการยกเลิกสัญญารายได้ค่าเช่าขั้นต่ำ
- กำไร 1Q24 คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรปี 2024 ของเรา
- บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.19 บาท/หน่วย (-17% YoY แต่ +19% QoQ) สูงกว่าที่เราคาด 0.03 บาท/หน่วย เนื่องมาจากความล่าช้าในการจ่ายค่าเช่าขั้นต่ำในปีที่แล้ว
- เราจึงได้ปรับประมาณการเงินปันผลจ่ายปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 0.64 บาท/หน่วย เป็น 0.70 บาทต่อหน่วย
- เราเชื่อว่าความเสี่ยงจากคู่สัญญา (counterparty risk) ของ 3BBIF ลดลง หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ 3BB เป็น ADVANC (ผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง) และการปรับโครงสร้างค่าเช่าซึ่งช่วยให้ 3BB มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาดในการดำเนินงานได้มากขึ้น
EDGE Invest Ideas คือฟีเจอร์รวมลิสต์หุ้นไทย ที่จะช่วยแนะนำไอเดียในการลงทุนห้คุณ โดยหุ้นในลิสต์นี้คัดสรรจากพฤติกรรมการลงทุนของลูกค้าแบบ Personalized โดยดูข้อมูลจากพอร์ตการลงทุนปัจจุบันของลูกค้าว่ามีสไตล์การลงทุนแบบใด รวมกับหุ้นแนะนำจากบล.เกียรตินาคินภัทร โดยมีเกณฑ์การเลือกหุ้นแนะนำ 3 ข้อดังนี้
- Core Port เป็นหุ้นไทยที่ทาง KKPS มองว่าควรมีติดพอร์ต เป็นแกนกลางของพอร์ต แนะนำให้ถือติดพอร์ตไว้ในระยะยาว
- Tactical Idea คือหุ้นไทยที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ อาจจะเป็นหุ้นที่มีข่าวในเชิงบวก หรือผลประกอบการดีในช่วงที่ผ่านมา แนะนำให้ซื้อในช่วงนี้เพื่อทำกำไรในระยะสั้น
- Dividend คือหุ้นปันผล เป็นหุ้นที่ให้ปันผลดี เหมาะสำหรับสายปันผล

บทความที่คุณอาจจะสนใจ
หุ้นไทยแนะนำจากบล.เกียรตินาคินภัทร
EDGE HOT PORT
👉 เปิดบัญชีลงทุน EDGE พร้อมกรอก Ref Code: HOT 👈
รับเงินโอนเข้าบัญชี KKP SMART SETTLEMENT (KKPSS) 50 บาท
1 ก.ค. - 30 ก.ย. 2567


อยากเริ่มต้นลงทุนกับ EDGE ทำอย่างไร
โปรโมชันอื่นๆ จาก EDGE by KKP ที่คุณอาจจะสนใจ


ข้อกำหนดและเงื่อนไขแคมเปญ EDGE Commission Free Day
1. รายการซื้อหุ้นไทยตามวันและช่วงเวลาที่กำหนดของเดือนกรกฎาคม 2567 จะได้รับยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมซื้อโดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.1 วันที่กำหนด: วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2567
1.2 ช่วงเวลาที่กำหนด: รายการซื้อหุ้นไทยที่มีมูลค่าคำสั่งซื้อรวมไม่เกิน 500,000 บาท จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมซื้อทุกรายการ ระหว่างช่วงเวลา 10.00 – 12.30 น. และ 14.30 – 16.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) โดยยึดตามวันและเวลาที่ส่งคำสั่งสำเร็จ ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมซื้อสำหรับคำสั่งซื้อที่มีมูลค่าไม่เกิน 500,000 บาทแรกเท่านั้น
2. บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอสงวนสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมซื้อกับลูกค้าบุคคล EDGE Silver, EDGE Gold และ EDGE Platinum ที่ทำรายการซื้อหุ้นไทยผ่านบัญชีวางเงินล่วงหน้า (Cash Balance) ผ่านแอปพลิเคชัน Streaming เท่านั้น โดยลูกค้าจะต้องไม่เคยมีหน่วยลงทุนหุ้นไทยในพอร์ตของบล.เกียรตินาคินภัทรมาก่อน
3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมซื้อกับลูกค้าบุคคลที่เปิดบัญชีลงทุน EDGE ก่อนวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 เท่านั้น
4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขใด ๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน รวมถึงเปลี่ยนแปลงของรางวัล/สิทธิพิเศษที่มีมูลค่าเท่ากัน โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
5. ลูกค้าไม่สามารถแลกหรือเปลี่ยนของรางวัลที่ลูกค้าได้รับเป็นของรางวัลอื่น หรือเงินสดได้ทุกกรณี
6. บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บริการตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ รวมถึงอาจมีการบันทึกเสียง ภาพนิ่ง และ/หรือภาพเคลื่อนไหวอันเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมนี้เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสิทธิภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับล่าสุดของกลุ่มธุรกิจฯ ตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ ประกาศความเป็นส่วนตัว หรือเว็บไซต์อื่นใดของบริษัทในกลุ่มธุรกิจฯ
7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกเงื่อนไขการเข้าร่วม และ/หรือรายละเอียดและเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน รวมถึงเปลี่ยนแปลงของรางวัล/สิทธิพิเศษที่มีมูลค่าเท่ากัน โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
8. หากมีข้อพิพาทใด ๆ ให้คำตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สุด
คำเตือน:
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข นโยบายการลงทุน ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผู้ลงทุนยินยอมและรับทราบว่ารายการส่งเสริมการขายนี้ไม่ถือเป็นการจูงใจหรือเร่งรัดให้ผู้ลงทุนตัดสินใจใช้บริการหรือตัดสินใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนแต่อย่างใด
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
- KKP MOBILE โดย ธ.เกียรตินาคินภัทร เป็นช่องทางการให้บริการของ บล.เกียรตินาคินภัทร