Home
/Product
/Promotion
/Article
/Help
เคยสงสัยกันมั๊ยคะว่าทำไมอากงอาม่าบางคน ถึงมีเงินเก็บมาใช้ตอนเกษียณได้เยอะขนาดนี้
EDGE Invest เลยไปขอเคล็ดลับการออมเงินของพวกเขามาฝาก
ตามมาอ่านพร้อมกันในบทความนี้ได้เลยนะคะ
เริ่มกันที่เทคนิคการประหยัดเงินข้อแรกของคนจีนยุคอาม่า คือ “การไม่ตกเป็นทาสของแบรนด์เนม” หรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่เป็นเพียงวัตถุที่ช่วยบ่งบอกสถานะ โดยคนจีนในยุคนั้นส่วนใหญ่ต้องการอยู่กันแบบถ่อมตน หลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะอยู่ห่างจากการใช้ของแบรนด์เนมหรือสินค้าฟุ่มเฟือย
ซึ่งหากพูดถึงบริบทของคนในยุคนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าค่อนข้างจะแตกต่างจากวิถีชีวิตของคนจีนสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง เพราะในยุคโซเชียลมีเดียอย่างปัจจุบันทำให้หลายๆคนต้องการเป็นจุดสนใจและได้รับการยอมรับในสังคมที่มากขึ้น ของแบรนด์เนมจึงเป็นสิ่งที่คนในยุคนี้เลือกที่จะเดินเข้าหามากกว่าจะถอยห่างเหมือนสมัยก่อน เพื่อใช้เป็นสิ่งแสดงออกถึงสถานะทางสังคม ซึ่งสิ่งนี้เองที่อาจเป็นหลุมพรางให้คนยุคนี้มีการเก็บออมที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับคนจีนในสมัยก่อน
ในสมัยก่อนคนจีนที่มีรายได้ มักจะมีคติประจำใจ คือ “ได้ 10 ให้ใช้ 1” หรือ เมื่อหาเงินได้ให้แบ่งเงินไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 1 ส่วนเท่านั้น โดยพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างพอกินพอใช้และเก็บเงินกันอย่างหนักหน่วง เพราะเราต้องเข้าใจบริบทในสมัยนั้นก่อนว่า คนจีนมีชีวิตที่ค่อนข้างจะลำบากด้วยปัญหาต่างๆภายในประเทศ พวกเขาจึงมักเก็บออมกันอย่างมาก เพราะความกลัวลำบาก
แต่ทั้งนี้แผนการเงินดังกล่าวอาจดูค่อนข้างจะสุดโต่งเกินไปในยุคปัจจุบัน หากเราจะนำมาประยุกต์ใช้ เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆที่เพิ่มขึ้นจากในอดีตที่หากเรานำหลักคิดนี้มาใช้ก็อาจทำให้เราเกิดภาวะ ‘ค่าใช้จ่ายขาดมือ’ จนเกิดความเครียดได้ ดังนั้น แอดมินแนะนำให้เพื่อนๆ ลองคำนวณค่าใช้จ่ายและแบ่งเงินเก็บให้มีความสมดุลและเหมาะสมกับรายรับของแต่ละท่านจะดีที่สุดค่ะ
สำหรับเทคนิคการเก็บเงินข้อที่ 3 ของคนจีนสมัยก่อน ก็คือ การเรียงลำดับความสำคัญของ ‘ของมันต้องมี’ กับ ‘ของที่อยากมี’ เพราะถึงแม้ว่าคนจีนจะขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดมัธยัสถ์ แต่หากเป็นการใช้จ่ายเพื่อซื้อ ‘สิ่งของที่จำเป็นจริงๆ’ พวกเขาก็จะใช้จ่ายในส่วนนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพหรือเรื่องที่เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน/ธุรกิจ
ยกตัวอย่างสถานการณ์เช่น
หากเราต้องทำการ WFH อยู่ที่บ้าน โดยที่เรานั่งเก้าอี้ทานข้าวเพื่อทำงานทั้งวันจนมีอาการปวดหลังรุนแรง เราก็ควรที่จะใช้เงินเพื่อซื้อเก้าอี้นั่งทำงานที่เหมาะกับสรีระของเรา และมีราคาที่เหมาะสม
อีกหนึ่งตัวอย่าง คือ
กรณีใช้จ่ายเพื่อสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่าง เสื้อผ้า เราก็อาจจะไม่ได้จำเป็นที่จะต้องซื้อเสื้อผ้าระดับ GUCCI เพื่อสวมใส่ และให้เหตุผลว่าเพราะเสื้อผ้าเป็นสิ่งของจำเป็น เพราะนั่นไม่ใช่การใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล ดังนั้นเราควรถามตัวเองในทุกครั้งที่จะใช้จ่ายสิ่งของต่างๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับการเก็บออมนั่นเอง
ถ้าหากคุณขอเคล็ดลับการเก็บเงินอย่างรวดเร็วจากคนจีนสมัยก่อน คุณจะได้คำแนะนำพื้นฐานอย่างการ “อยู่บ้าน และกินข้าวที่บ้าน” เพราะการทานอาหารที่บ้านจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้เรามากกว่าการออกไปทานนอกบ้านที่จะมีราคาค่าอาหารที่สูงกว่า และยังไม่รวมถึงค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก นอกจากนี้ยังเป็นใช้เวลาอยู่กับครอบครัวที่ทางหนึ่งด้วย
แต่ก่อนจะไปออมเงินหรือลงทุน ไปดาวน์โหลด EDGE บนแอปกันก่อนเลยที่
EDGE Invest หวังว่าเคล็ดลับการเก็บเงินของคนรุ่นอากงอาม่าเหล่านี้ จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แต่ละท่านสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเก็บเงินให้ได้อย่างเหมาะสมตามบริบททางสังคมในปัจจุบันนะคะ
และนอกจากการเก็บออมแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะสามารถช่วยเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงินให้กับเราได้ ก็คือการนำเงินเก็บของเรามาลงทุนนั่นเองค่ะ
แต่การจะลงทุนในสินทรัพย์ใดเราก็ควรที่จะเลือกตามความเหมาะสมและความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้ ซึ่งหากเพื่อนๆท่านใดสนใจลงทุนหรือประเมินความสามารถและความเสี่ยงในการลงทุนที่เหมาะสมกับเพื่อนๆ